วันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2562

ดาวอาทิตย์ตามราศีต่างๆ





... ดาวอาทิตย์ในราศีเมษ ...

... ดาว ๑ ในราศีเมษนี้ได้ตำแหน่งอุจจ์ - ยิ่งใหญ่ - หนักหนาสาหัส
ทำให้มีความทะเยอทะยานสูง ...
... ดาว ๑ อยู่เรือนดาว ๓ ได้คู่ - ๑ + ๓ = คู่ทะเยอทะยาน ...
... ราศีเมษมี ๓ + พลูโตเป็นเจ้าเรือนร่วมกัน ...
... พลูโตมีความหมายถึง - ชอบสะสม - โบราณคดี - แพทย์ - ไสยศาสตร์ - วิญญาณ ...
... ถ้าเราตั้งราศีสิงห์เป็นลัคนาของดาว ๑ จะอ่านว่า ...
... ตนุ -- เจ้าชาตา + ศุภะ - คิดถึงอนาคต + พันธุ - ความมั่นคง ...
... แปลว่า ... เจ้าชาตาคิดถึงความสำเร็จในอนาคตและความปึกแผ่นมั่นคงในบั้นปลายชีวิต ...
... ฟังดูดีนะครับ แต่ก็อีก - ๑ + ๓ = คู่ศัตรู ... 
... จะทำอะไรก็ต้องมั่นใจให้มาก เพราะอยู่บ้านศัตรู ... หากเราอยากจะรู้ว่าหมู่หรือจ่า ก็ต้องตามเจ้าเรือนไป ถ้าดาว ๓ ไปเป็นนิจจ์ - อ่อนตัว ดาว ๑ ก็เบาแรงหน่อย แต่ถ้าดาว ๓ ไปเป็นอุจจ์ละก้อ ดาว ๑ จะอึดอัดและยุ่งยากมากเลยทีเดียว ... 
... ถ้าดาว ๑ อยู่ราศีเมษแล้วมีดาว ๓ เป็นเกษตรกุมอยู่ ถ้าเป็นชายมีสิทธิ์ได้เป็นนายพล - ๑ + ๓ = นายพล ... ถ้าเป็นหญิงมีโอกาสได้สามีเป็นนายพลเช่นกัน ...
... แต่ก็ยังมีความหมายที่ไม่น่าฟังอยู่ก็คือ - ๑ + ๓ = คู่ปะทะ ...
... การปะทะเกิดขึ่นได้อย่างน้อยๆ 3 กรณีกล่าวคือ ...
... 1. รถยนต์เกิดปะทะกัน นั่นคืออุบัติเหตที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ 
... 2. คู่ศัตรูเกิดปะทะกัน นั่นคือการวิวาทเกิดการนองเลือด ...
... 3. ร่างกายที่จำต้องได้รับการผ่าตัดอย่างฉับพลัน ...


... ถ้าในพื้นดวงเดิมมี  ๑ + ๒ + ๓ ไปกุมกันอยู่ที่ราศีเมษละก้อ สนุกแน่ ๑ - อุจจ์ + ๒ - คุณนาย + ๓ เกษตร ... ๑ - สามีมีอำนาจ ๓ - ชู้มีเงิน ๒ มหาจักร - คุณนายจะเลือกใครดี ? ... 


... ดาวอาทิตย์ในราศีพฤษภ ...

... ดาว ๑ ในราศีพฤษภได้ตำแหน่งอุจจาภิมุข - สุดยอด - ไม่ทิ้งลาย
... ดาว ๑ อยู่เรือนดาว ๖ ได้คู่ - ๑ + ๖ = คู่สมพล - คู่ที่มีพลังงาน
... ราศีพฤษภมี ๘ เป็นเจ้าเรือนร่วมกับดาว ๖ ... ตามรูปต่อไปนี้ ...


... ถ้าเราตั้งราศีสิงห์เป็นลัคนาของดาว ๑ จะอ่านว่า ...
... ตนุ - เจ้าชาตา + กัมมะ - งาน + สหัชชะ - เกี่ยวกับ ...
... แปลว่า ... เจ้าชาตาคิดถึงแต่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับงานโดยตรง ...
... ก็น่าจะดีได้เพราะขยันทำมาหากิน ...
... นอกจากนี้ ๑ + ๖ ยังได้คู่กาลี [ ๖ เป็นกาลีของ ๑ ] ...
... แต่คนที่จะเดือดร้อนควรต้องเป็นชาย หรือว่าเป็นคนเกิดวันอาทิตย์เท่านั้นจึงจะตรงตามตำรา ...
... เรื่องดี - เรื่องเสีย จิปาถะก็พูดกันไปแล้ว คราวนี้มาพูดกันเรื่องพลังงานกันดู ... ๑ - ผู้ชาย + ๖ - ความรัก = ผู้ชายที่มีพลังงานในด้านความรักอย่างเต็มเปี่ยม ... 
... ๑ + ๖ แปลได้ว่า - ชีวิตที่ดีเด่นและประสบความสำเร็จ - ชายนักรัก
- มีเสน่ห์ในตัว - ตัวเป็นแม่เหล็กมีพลังดึงดูด - โชกโชนในเรื่องความรัก - ความรักในวัยเด็ก - ชายรูปงาม - วันแห่งความรัก ...
... พอมาถึงตรงนี้แล้ว ... จากดาว ๑ เราก็ต้องตามเจ้าเรือนก็คือดาว ๖ ไปอยู่ตรงไหน? เป็นเรือนภพ ตำแหน่ง ดี - ร้ายเพียงใด ... ซึ่งการตามเจ้าเรือนไปนี้ ใช้ได้จากดาว ๑ ในดวงเดิมและดาว ๑ ในดวงจร ใช้ระบบเดียวกัน คือตามเจ้าเรือนนั้นๆไปนั่นเอง ... 


... ดาวอาทิตย์ในราศีมิถุน ...

... ดาว ๑ ในราศีมิถุนนี้ได้ตำแหน่งราชาโชค - สบายๆ - ปลอดโปร่ง
... ดาว ๑ อยู่ในเรือนดาว ๔ + ๙ ได้คู่ - ๑ + ๔ = คู่วิชาการ - คู่รัดกุม
... ๑ + ๙ เรียกว่า " คู่โลกทิพย์ " ... " คู่กายทิพย์ " ...
" คู่ศักดิ์สิทธิ์ " ...  ดาว ๑ หมายถึง กาย ส่วนเกตุ หมายถึง วิญญาณ รวมกันแปลว่า " กายทิพย์ " ทำให้ผู้ที่มี ๑ กุม ๙ มีพลังจิตที่สูงเยี่ยม มีลางสังหรณ์ที่แม่นยำ  มีความจำเป็นเลิศ ...
... ราศีมิถุนมี ๔ + ๙ เป็นเจ้าเรือนร่วมกัน ...
... ถ้าเราตั้งราศีสิงห์เป็นลัคนาของดาว ๑ จะอ่านว่า ...
... ตนุ - เจ้าชาตา + ลาภะ - รายได้ + กฎุมภะ - เงิน ...
... แปลว่า ... เจ้าชาตามีการเงินและรายได้อย่างง่ายๆและสบายๆ ...
... ได้แบบนี้ก็ขอบอกว่า โชคดีเน้อ ... หาเงินได้แบบไม่เครียด ...
... ดาว ๑ - ชาย + ๔ - หนุ่ม ๑ + ๔ = ชายหนุ่ม - หนุ่มตลอดกาล ...
... นี่ถ้าดาว ๔ เจ้าเรือนไปกุมดาว ๖ หรือไปอยู่เรือนของดาว ๖ ก็จะ
ต้อง + ดาว ๖ เข้าไปอีกเป็น ๑ + ๔ + ๖ = ชายหนุ่มนักรัก เป็นยังไงหรือจะเป็นนักดนตรีหนุ่มนักรัก เข้าท่าไหมครับ ... 




... ดาว ๑ ในปฏิจจสมุปบาท คือ สฬายตนะ = สื่อแห่งการรับรู้ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ + ดาว ๔ คือ ผัสสะ = การรับรู้ การติดต่อกับโลกภายนอก การปรุงแต่งจิตให้ติดต่อกับสิ่งเร้าที่มากระทบ ... ดังนั้นดาว ๑ และ ดาว ๔ สัมพันธ์กันจึงเกิดการรับรู้ในเรื่องต่างๆอย่างละเอียดละออ ... ถ้าเราจะมาพูดกันในเรื่องธาตุกัน ... ดาว ๔ ถ้าในระบบเกษตรเรือนเดียวจัดว่าเป็นธาตุดิน แต่ถ้าเป็นระบบเกษตร 2 เรือนจะเป็นธาตุ
ดินและธาตุลมร่วมกัน เวลาอ่านก็ไม่ยาก ถ้าหากดาว ๔ อยู่ภาคกลางคืน [ ตั้งแต่ราศีกรกฏ มิถุน พฤษภ เมษ มีน กุมภ์ ] ก็ให้ถือว่าเป็นธาตุลม แต่ถ้าอยู่ภาคกลางวัน [ สิงห์ - มังกร ] ให้จัดว่าเป็นธาตุดิน ...


... ดาวอาทิตย์ในราศีกรกฏ ...

... ดาว ๑ ในราศีกรกฏนี้ได้ตำแหน่งมหาจักร - พลิกผัน - โลดโผน 
... ดาว ๑ อยู่ในเรือนดาว ๒ ได้คู่ - ๑ + ๒ =  คู่หยิน - หยาง 
... ๑ + ๒ เขายังเรียกกันว่า "คู่ครัวเรือน " ... " คู่หย่าร้าง " ...
 " คู่ผัวเมีย " ... เพราะว่าดาว ๑ เป็นธาตุไฟ ดาว ๒ เป็นธาตุน้ำ
โดยธรรมชาติย่อมจะต้องไม่กินเส้นกันอยู่แล้ว ... 
ดาว ๑ หมายถึง ร้อน ดาว ๒ หมายถึง น้ำ ๑ + ๒ = ใจร้อน ... ตามระบบทักษา ๑ ยังเป็นกาลีของ ๒ อีกด้วย ดังนั้น ๑ ผู้ชาย
๒ ผู้หญิง กุมกัน ... ชีวิตคู่มักจะแปรผันและไม่ยืนยงอย่างแน่นอน ...
... ถ้าเราตั้งราศีสิงห์เป็นลัคนาของดาว ๑ จะอ่านว่า ...
... ตนุ - เจ้าชาตา + วินาสน์ - ล้มเหลว - ปิดบัง - เก็บตัว ...
... แปลว่า ... เจ้าชาตามีความลับที่ปิดบังไม่เปิดเผยต่อผู้อื่น ...
... มาในรูปนี้บอกได้ว่าเป็นคนลึกลับอย่างแน่นอน แต่จะลึกซึ้งซับซ้อนแค่ไหน ? ก็ต้องตามดาว ๒ ในดวงเดิมกับดาว ๒ จรอีกทีหนึ่ง ...
... ถ้าเราอยากจะรู้ว่าวินาสน์ในเรื่องอันใด ก็ไปอ่านจากลัคนาโลกว่าราศีกรกฏเป็นเรือนพันธุ - บ้าน ไปอ่านรวมกับเรือนวินาสน์ อ่านว่า ...
... วินาสน์ + พันธุ แปลว่า ... 1.บ้านลับ = มีเมียน้อย  
... 2.บ้านพัง = บ้านแตกสาแหลกขาด, ครอบครัวพังพินาศ
... 3.บ้านที่ถูกกักกัน - ไร้อิสระ = คุก, ตาราง, สถานที่กักขัง ...
... ดาว ๑ เป็นธาตุไฟ ส่วนดาว ๒ เป็นธาตุน้ำ ในเมื่อ ๑ - ไฟ อยู่เรือนธาตุน้ำ เราก็ต้องดูกันต่อไปว่าดาว ๒ ในพื้นดวงชาตาไปอยู่ที่ราศีธาตุใดจะอ่อนตัว แข็งตัว เข้มแข็งอ่อนแอประการใด แล้วเราค่อยมาวิเคราะห์กันอีกทีนึง อย่าลืมใช้ดูกับดาว ๒ ที่จรอยู่ด้วย ...
... ๑ + ๒ = ไฟริษยาในดวงจิต
... ๑ + ๒ = ชายใจดุจหญิง,หญิงใจดุจชาย
... ๑ + ๒ = ร่างกายและจิตใจ ...


... ดาวอาทิตย์ในราศีสิงห์ ...

... ดาว ๑ ในราศีสิงห์นี้ได้ตำแหน่ง เกษตร - ของตนเอง - มั่นคง
... ดาว ๑ อยู่ในเรือนดาว ๑ ได้คู่ - ๑ + ๑ = คู่เราเป็นเรา - ยึดมั่น
... ถ้าเราตั้งราศีสิงห์เป็นลัคนาของดาว ๑ จะอ่านว่า ...
... ตนุ - เจ้าชาตา + ตนุ - เจ้าชาตา ...
... แปลว่า ... กรูก็คือกรูล้วนๆไม่มีคนอื่นเจือปน 

... แสดงว่าเป็นคนยึดมั่นในตัวตนอย่างแรงกล้า ไม่คำนึงถึงผู้อื่น ไม่มีการปล่อยวางใดๆ ทั้งสิ้น ... เนื่องจากราศีสิงห์เป็นเรือนปุตตะ - เด็ก ของลัคนาโลก จึงทำตัวเหมือนเด็กที่เอาใจตัวเอง นิสัยแบบเด็ก ๆ ... ใบหน้าที่อ่อนกว่าวัย - ตรงนี้ดูดีใครๆก็ชอบ ... 

... ราศีสิงห์เป็นสฬายตนะ = สื่อแห่งการรับรู้คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
เมื่อดาว ๑ เป็นเกษตร ยิ่งเพิ่มสฬายตนะเป็นดับเบิ้ลทันที ตัวอัตตาจึงแรงขึ้นเป็นทวีคูณ ยิ่งดาว ๑ มีความหมายถึงการทำนายเกี่ยวกับยศศักดิ์ด้วยแล้ว เมื่อ ดาว ๑ เป็นกำลัง 2 แบบนี้ เรื่องหยิ่ง ยะโส โอหัง ถือดีไม่ต้องพูดถึงมีครบกระบวนท่าเลยทีเดียวเลยละ ...




... จากราศีสิงห์ ที่เป็น ตนุ + ปุตตะจากลัคนาโลก แปลได้ว่า ...
... 1. เจ้าชาตารักและเอาใจใส่บุตรเป็นอย่างดี
... 2. เจ้าชาตาชอบเสี่ยงโชคเป็นชีวิตจิตใจ
... 3. เจ้าชาตาเป็นที่รักยิ่งของปู่และยาย ... ปู่ย่าเอามาจากไหน? ...
... ถ้าตั้งเรือนศุภะ - พ่อหรือแม่ที่ราศีธนู ของลัคนาโลกที่ราศีเมษเป็น ลัคนา เรือนปุตตะเดิมก็จะเป็นเรือนศุภะ ของศุภะ - พ่อของพ่อ - ปู่ หรือแม่ของแม่ - ยาย ทันที ... ถ้าเป็นลัคนาชายก็จะเป็น - พ่อของพ่อ = ปู่ ... ถ้าเป็นลัคนาหญิงก็จะเป็นแม่ของแม่ = ยาย ...

... ดาวอาทิตย์ในราศีกันย์ ...

... ดาว ๑ ในราศีกันย์นี้ไม่มีตำแหน่งใดๆ
... ดาว ๑ อยู่ในเรือนดาว ๔ ได้คู่ - ๑ + ๔ = คู่ประชาสัมพันธ์
... ๑ + ๔ เขาเรียกกันว่า ... " คู่มันสมอง " ... " คู่แผนการ " ...
" คู่ประชาสัมพันธ์ " ... " คู่การติดต่อ " ... 
" คู่สัญญา " ... ๑ หมายถึงความกระตือรือล้น  ๔ หมายถึงมันสมอง รวมกันหมายถึง การวางแผนงานต่าง ๆ ...
การ คิดค้น ค้นคว้าหาข้อมูล ฯ ล้วนต้องใช้ร่างกายและสมองด้วยกันทั้งสิ้น ...
... ถ้าเราตั้งราศีสิงห์เป็นลัคนาของดาว ๑ จะอ่านว่า ...
... ตนุ - เจ้าชาตา + กฎุมภะ - เงิน + ลาภะ - รายได้ 
... แปลว่า ... เจ้าชาตาขะมักเขม้นใจจดใจจ่อในการแสวงหาทรัพย์
... เพราะดาว ๑ อยู่ราศีกันย์เป็นเรือนอริ - ขะมักเขม้น การบริการ ของลัคนาโลก ... อยู่ราศีกันย์เรือนดาว ๔ เหมือนกันแต่ไม่มีตำแหน่ง ไม่เหมือนตอนอยู่ที่ราศีมิถุนได้ตำแหน่งราชาโชค - สบายๆ กว่าเยอะ ...
... ดาว ๑ เป็นธาตุไฟมาอยู่ราศีกันย์ธาตุดิน ทำให้ไฟครุกรุ่นอยู่โดยตลอดจึงมีชีวิตที่กระตือรือร้น แสวงหา คร่ำเคร่งในการแสวงหาทรัพย์
... ยิ่งดาว ๑ เป็นเจ้าเรือนปุตตะ - เอาใจใส่ ของลัคนาโลกมาอยู่ราศีกันย์เรือนอริ - ขยัน - อดทน ก็ยิ่งเกิดความเอาใจใส่พากเพียร ขยันและอดทนมากขึ้นเป็นทวีคูณ ... ๑ + ๔ = ชีวิตในวัยเด็ก ถ้าในพื้นดวงชาตามี ดาว ๔ เป็นเกษตร - เสมอๆ + อุจจ์ - บ่อยๆ อยู่ที่ราศีกันย์ด้วยแล้วก็การันตีได้เลยว่าตั้งแต่อายุ ๑๑ ปีขึ้นมาชีวิตก็เริ่มขยันหมั่นเพียรมีความมานะพากเพียร ในการหาเงินหาทองอย่างขะมักเขม้น แต่หากดาว ๔ ในพื้นดวงชาตามีตำแหน่ง เป็นประ - นิจจ์ ที่ทำนายมาทั้งหมดก็ต้องลดลงไปตามส่วน ... สรุปดาว ๑ ในราศีกันย์ให้ความบึกบึนอดทน อดกลั้นได้เป็นอย่างดี พร้อมที่จะรอคอย ... ได้อยู่เสมอ ...

... ดาวอาทิตย์ในราศีตุลย์ ...

... ดาว ๑ ในราศีตุลย์นี้ได้ตำแหน่งนิจจ์ - อ่อนด้อย - อ่อนล้า
... ดาว ๑ อยู่เรือนดาว ๖ ได้คู่ - ๑ + ๖ = คู่สมพล - คู่ที่มีพลัง
... น่าจะดีได้ แต่ก็จะยังดีไม่ได้เพราะดาว ๑ เป็นนิจจ์ - อ่อนแสง ต้องอาศัยดาว ๖ เจ้าเรือนไปเป็นอุจจ์หรือเกษตร ยังพอเอาตัวรอดได้บ้าง
... ๑ + ๖ เรียกกันว่า " คู่สมพล " ... " คู่นักรัก " ... " คู่เด่น " ... ดาว ๑ หมายถึง ความรัก [ ปุตตะของโลก ] ดาว ๖ หมายถึง ปัตนิ คนรัก ] + กฤุมภะ [ ได้มา ] ...
อีกทั้งดาว ๑ ธาตุไฟ ดาว ๖ ธาตุลม ทำให้ไฟรักลุกลาม ไปตามกระแสแห่งธาตุลม ...
 ... ดังนั้นย่อมมีความหมายเอนเอียงไปในทางพลังแห่งความรัก + คนรัก ยิ่งได้เป็นคู่สมพล แปลว่ามีพลัง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องราวของนักรักอย่างแน่แท้ ...
... ถ้าเราตั้งราศีสิงห์เป็นลัคนาของดาว ๑ จะอ่านว่า ...
... ตนุ - เจ้าชาตา + สหัชชะ - เกี่ยวข้องกับ + กัมมะ - งาน 
... เจ้าชาตามักมีเรื่องยุ่งยากเกี่ยวกับเพื่อนร่วมงาน
... ถ้าเป็นดาว ๑ อยู่ราศีพฤษภเราจะเน้นเรื่องงาน เพราะว่าเป็น
เรือนกัมมะของลัคนาราศีสิงห์ และเน้นเรื่องเงินเนื่องจากเป็น
เรือนกฎุมภะของลัคนาโลก = กัมมะ + กฎุมภะ - งาน + เงิน ...
... แต่ถ้าเป็นดาว ๑ อยู่ราศีตุลย์เราจะเน้นเรื่องเพื่อนเพราะว่าเป็นเรือนสหัชชะ - เพื่อน ของลัคนาราศีสิงห์ และเป็นเรือนปัตนิ - ปัญหาของลัคนาโลก ... สหัชชะ + ปัตนิ = เพื่อนมีปัญหา ...
... ๑ + ๖ = ชายเสเพลนักรัก, ชายรักสนุกทุกข์ถนัด 
... อ้อ ! เกือบลืมไป...  ๑ + ๖ ยังได้คู่กาลี [ ๖ เป็นกาลีของ ๑ ] ...
... ดาว ๑ อยู่ราศีตุลย์นี้ได้ตำแหน่งเป็นนิจจ์ จิตใจอ่อนไหว ไร้พลังในการต่อต้าน ... สู้ดาว ๑ ที่อยู่ราศีพฤษภตำแหน่ง อุจจาภิมุข ไม่ได้ มีความยับยั้งชั่งใจเป็นอย่างดีไม่น่าเป็นห่วง ...

... ดาวอาทิตย์ในราศีพฤศจิก ...

... ดาว ๑ ในราศีพฤศจิกนี้ได้ตำแหน่งดาว ๑ ตกน้ำ
... ดาว ๑ อยู่เรือนดาว ๓ ได้คู่ - ๑ + ๓ = คู่หึงหวง, คู่แตกหัก ...
... ๑ + ๓ เรียกว่า " คู่แตกหัก " ... " คู่ปะทะ " ... " คู่ทะเยอทะยาน " ...  แน่นอน ๑ ไฟ ๓ น้ำ ... ไม่ลงรอยกัน 100 % ยิ่งตามนิทานชาติเวรโหราศาสตร์ ดาว ๓ เป็นชู้ กับดาว ๒ เมีย  ดาว ๑ ... ยิ่งชัดเข้าไปใหญ่ ... นี่ถ้ามีดาว ๒ มากุมกันอีกน่าจะเรียกว่า " คู่ชุลมุน " ... " คู่ราวี " ... คู่ปะทะเฉพาะหน้า " ... ก็เป็นได้ ...
... ถ้าเราตั้งราศีสิงห์เป็นลัคนาของดาว ๑ จะอ่านว่า ...
... ตนุ - เจ้าชาตา + พันธุ - บั้นปลายชีวิต + ศุภะ - ความสำเร็จ
... แปลว่า ... เจ้าชาตามีความสำเร็จในบั้นปลายชีวิต ... แต่ก็ต้องระวังถ้าดาว ๓ เจ้าเรือนเป็นเกษตรที่ราศีพฤศจิกความรุนแรงและความกดดันจะมีมากกว่าดาว ๓ เป็นเกษตรที่ราศีเมษเพราะเป็นราศีธาตุน้ำของตนเองทำอะไรก็เต็มอัตราศึก อีกอย่างนึงดาว ๓ ใน ... ปฏิจจสมุปบาทคือตัณหา ... 
[ ตัณหาหมายถึง ... ความอยาก คือ อยากได้ อยากเป็น อยากคงอยู่ต่อไป หรืออยากทำลาย ] ...
เมื่อดาว ๓ ตัณหาเป็นเกษตรยิ่งเพิ่มอัตตา - ตัวตนของดาว ๓ มากขึ้นทำให้ดาว ๑ อึดอัด ไหนเลยยังเป็น ดาว ๑ ตกน้ำไม่มีเรี่ยวแรงอยู่แล้ว ... ต้องไปไล่ในนวางศ์ว่าดาว ๑ ตกน้ำจริงหรือเปล่า ? ...


... สมมุติว่าถ้าในพื้นดวงเดิม มี [ ๑ + ๒ + ๓ ] ดาว ๒ - เมียเป็นนิจจ์ กุมดาว ๓ - ชู้เป็นเกษตรและดาว ๑ - สามีตกน้ำละก้อ ... เรื่องนี้ชู้ชนะสามีลอยลำจะไม่ชนะได้ยังไง ...
1.ชู้เข็มแข็ง 2.เมียใจอ่อน 
3.สามีบ่มีไก๊ - ไม่มีอะไร - ไม่ได้เรื่อง - ไม่มีน้ำยา 


... ดาวอาทิตย์ในราศีธนู ...

... ดาว ๑ ในราศีธนูนี้ไม่มีตำแหน่งแต่ได้อยู่เรือนคู่มิตร และเป็นธาตุไฟ ... ดาว ๑ อยู่เรือนดาว ๕ ได้คู่ - ๑ + ๕ = คู่พ่อตา + ลูกเขย , คู่อาจารย์ + ลูกศิษย์ ...
... ๑ + ๕ เรียกว่า " คู่มิตร " ... " คู่ญาติมิตร "... " คู่เครือญาติ " ... ตามนิทานโหราศาสตร์ ... ดาว ๑ เป็นลูกศิษย์ + ลูกเขย
ส่วนดาว ๕ เป็นพ่อตา  ซึ่งมีสัมพันธิ์ที่ดีต่อกัน ...
ดาว ๕ จากลัคนาโลก เป็นเจ้าเรือนภพ ศุภะ [ พ่อ หรือ แม่ ]
 ดาว ๑ เป็นเจ้าเรือนภพปุตตะ [ บุตร ] ย่อมเป็นคู่ญาติมิตรโดยปริยาย ...
... ถ้าเราตั้งราศีสิงห์เป็นลัคนาของดาว ๑ จะอ่านว่า ...
... ตนุ - เจ้าชาตา + ปุตตะ - เกิด + มรณะ - ต่างประเทศ 
... แปลว่า ... เจ้าชาตาเกิดในต่างประเทศ - มีรายได้จากการเดินทางไกล - เกิดมาก็สบายเพราะมีมรดก [ คาบช้อนเงินช้อนทองมาด้วย ] ...
... แต่ก็ต้องดูตามไปว่าดาว ๕ ในพื้นดวงเดิมอยู่ที่ไหน? ...
... สมมุติดาว ๕ ไปอยู่สิงห์ - อุจจาภิมุข = ตกตนุ - ได้กับตัว - โอเค ...
... สมมุติดาว ๕ ไปอยู่มิถุน - ประ = ตกกัมมะเป็นประ - ได้คนอื่น ...
ไม่ - โอเค ... 
... ดาว ๕ ถือว่าเป็นโชคลาภก้อนใหญ่ ...
... ถ้าเป็นราขาโชคก็จะได้แบบง่าย ๆ
... ถ้าเป็นมหาจักรก็จะได้แบบโลดโผนพลิกผัน
... ถ้าเป็นประก็จะได้จากผู้อื่น อะไรทำนองนี้ ...


... ข้อดีของคนที่มีดาว ๑ อยู่ราศีธนูนี้ถ้ามีดาว ๕ และดาว ๐ อยู่ในมุมตรีโกณ [ 3 ราศีคือ เมษ, สิงห์, ธนู ] ... 
... ๑ + ๕ + ๐ = ถูกสลากกินแบ่ง, มีโชคอย่างไม่คาดฝัน
... ถึงแม้จะเป็นดาวจรผ่านมาก็มีสิทธิ์มีโชคใหญ่ได้เหมือนกัน ...


... ดาวอาทิตย์ในราศีมังกร ...

... ดาว ๑ ในราศีมังกรนี้ได้ตำแหน่งจุลจักร - นอบน้อม - ถ่อมตน
... ๑ + ๗ = ได้คู่ธาตุตามทักษา แต่ ๑ ในเรือน ๗ น่าจะเครียด ... 
... ๑ + ๗ เรียกว่า " คู่ทุกข์ระทม " ...  " คู่พลัดพราก " ..." คู่ชายโสด " ... ดาว ๑ หมายถึงผู้ชาย ดาว ๗ หมายถึงการจาก เศร้าสร้อย จึงมีความหมายถึงชายแก่ที่เป็นหม้ายมีชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย ... และทุกข์ระทมใจในบั้นปลายแห่งชีวิต ...
... ถ้าเราตั้งราศีสิงห์เป็นลัคนาของดาว ๑ จะอ่านว่า ...
... ตนุ - เจ้าชาตา + อริ - บริการ - ปิดบัง + ปัตนิ - คู่ครอง
... แปลว่า ... 1.เจ้าชาตาดูแลบริการคนรักเป็นอย่างดี
2. เจ้าชาตาประกอบอาชีพบริการทางเพศ
3. เจ้าชาตามีเมียน้อยแอบซ่อนอยู่
4. เจ้าชาตาเป็นนักฆ่ามืออาชีพ
5. เจ้าชาตาร่วมลงทุนกับหุ้นส่วนตั้งบริษัท
... ทุกคนลองไปหาคำแปลเพิ่มเพื่อเป็นการลับสมองกันบ้างนะครับ ...




... ตามนิทานชาติเวรดาว ๑ = พญาครุฑ ดาว ๗ = พญานาค 
อาทิตย์กับเสาร์กลายเป็นศัตรู ... เสาร์กับราหูเป็นมิตรต่อกัน ...
[๕ ] เกิดเป็นพระอินทร์   [๘ ] พระราหู
[๑ ] เกิดเป็นพญาครุฑ  [ ๗ ] เกิดเป็นพญานาค  [ ๓ ] เกิดเป็นพญาราชสีห์เหตุเกิดเพราะชาติเวรความสัมพันธ์ของชาติเวร
ด้วยเหตุเภทภัยทำให้ พญาครุฑ [ ๑ ]ไล่จับกิน พญานาค[ ๗ ] ซึ่งเป็นเพื่อนเดือดร้อนถึง พญานาค[ ๗ ] ต้องหนีไปขอความช่วยเหลือ พระราหู [ ๘ ] ... 
... ตามตำแหน่งเจ้าเรือนเกษตร ๑ สิงห์เป็นมรณะกับ ๗ มังกร
ส่วน ๗ มังกรเป็นอริของ ๑ สิงห์ ... ดังนั้น ๗ จึงแพ้ทาง ๑ แน่นอน ...



... ดาวอาทิตย์ในราศีกุมภ์ ...

... ดาว ๑ ในราศีกุมภ์นี้ได้ตำแหน่งประ - อ่อนแอ - แตกแยก - บอบช้ำ
... ๑ + ๘  = ชายผู้หลงผิด - นักพนัน - อันธพาล - เงาของบุรุษ =
 " คู่ โลภ " ... " คู่มัวเมา " ... " คู่ผูกพัน " ... คู่ตรงข้าม " ... 
... ดาว ๑ หมายถึงความต้องการ ดาว ๘ หมายถึง โลภะ โทสะ โมหะ ... เมื่อมากุมกันจึงทำให้เป็นคน ...โลภโมโทสัน หาแก่นสารอันใดมิค่อยจะได้นัก ... เมิ่อผสมผสานกันออกมาแล้วจึงเป็นดั่งที่ได้กล่าวมาแล้วทั้งหมดนี้ ... ๘ ยังเป็นเจ้าเรือนภพลาภะ [ โลภ ] ของลัคนาโลกอีกต่างหากละ ...
... ๑ + ๐ เรียกว่า " คู่กระทันหัน " ... " คู่ฉุกละหุก " ...

" คู่ฉุกเฉิน " ... ดาว ๑ หมายถึง ความประมาท ดาว ๐ หมายถึงทันทีทันใด ในเมื่อกุมกัน ย่อมหมายถึงบุคคลที่มีความประมาทและเลินเล่อ ทำสิ่งใดมักสะเพร่า ทำงานใดๆก็ไม่เป็นชิ้นเป็นอันขึ้นมาได้ ...
... ราศีกุมภ์มี ๘ + ๐ + ๗ เป็นเจ้าเรือนร่วมกัน ...
... ๘ หมายถึง - ต่างชาติ - การหูเบาและหลงผิด - การรวมกลุ่ม ...
... ๐ หมายถึง - การคิดค้นสิ่งใหม่ๆ - คนแปลกหน้า - สนใจทางจิต ...
... ถ้าเราตั้งราศีสิงห์เป็นลัคนาของดาว ๑ จะอ่านว่า ...
... ตนุ - เจ้าชาตา + ปัตนิ - คู่ครอง - จังๆหน้า - ไหวพริบ + อริ - อุบัติเหต - การแก้ไข - ซ่อมแซม - ปัญหา

 
... ดาวอาทิตย์ในราศีมีน ...

... ดาว ๑ ในราศีมีนนี้ได้ตำแหน่งอุจจาวิลาศ - ใกล้จะดัง - จะบรรลุ
... ๑ + ๕ = คู่มิตรปิดบัง - ซ่อนเร้น - ไม่เปิดเผย
... ถ้าเราตั้งราศีสิงห์เป็นลัคนาของดาว ๑ จะอ่านว่า ...
... ตนุ - เจ้าชาตา + มรณะ - มรดก - โรคภัย - เดินทาง - พ่อหม้าย

... แปลว่า ... 
... 1. เจ้าชาตาเป็นคนมีมรดกตกทอด
... 2. เจ้าชาตามีโรคประจำตัว
... 3. เจ้าชาตาเดินทางเป็นประจำ
... 4. เจ้าชาตาเป็นพ่อหม้าย
... ที่ต้องแปลไปในลักษณะนี้ก็เพราะว่า ...
... 1. ดาว ๑ เป็นมรณะกับเรือนตนเอง [ ราศีสิงห์ ] ...
... 2. ดาว ๑ อยู่ราศีมีนเป็นเรือนวินาสน์ของลัคนาโลก
... 3. ดาว ๕ เจ้าเรือนราศีมีนจึงเป็นทั้ง มรณะ และ วินาสน์



... เตือนความทรงจำ ... ดาวเจ้าเรือนเกษตรแบบ Mix ...

... ราศีมีนนอกจากดาว ๕ เป็นเจ้าเรือนแล้วยังมีดาวเนปจูนร่วมครองเรือนเกษตรอยู่ด้วย ... เนปจูน หมายถึง - เครื่องบิน - เคมี - แก๊ส - ยาพิษ - เชื้อโรค - โรงพยาบาล - ของหมักของดอง - คอมมิวนิสต์
... ๑ + เนปจูน  =  เครื่องบิน - บุรุษพยาบาล - นายแพทย์ - นักเคมี - 
นักวิทยาศาสตร์ - ร่างกายที่ติดเชื้อโรค - หัวคอมมิวนิสต์ ...
... สรุปควรจดจำ... ดาวเจ้าเรือนเกษตรแบบ Mix ... นี้เอาไว้ให้ดี ...





... ดาว ๑ เป็นเจ้าเรือนราศีสิงห์ ดังนั้นเราจึงต้องแปลความจากลัคนาราศีสิงห์เป็นอันดับแรก ... ตามมาด้วยจากราศีเมษลัคนาโลกเป็นอันดับ 2 ... และตามติดด้วยลัคนาใครลัคนามันเป็นอันดับ 3 ... ก็เป็นอันว่าพิธีการเสร็จสิ้นตามกระบวนความได้เลยครับ ...

... สวัสดีครับ ...

... อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม ... 

















1 ความคิดเห็น: